สวรรค์
สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าตามเรียกขาน
ตำหนักน้อยใหญ่บ้างนางสนม
ผู้ใดใคร่ครองเขตให้ได้ภิรมย์
ข้าฯขอเพียงมีเจ้าสมดวงหทัย
โดย: ยูนูส เอมเร่ ศตวรรษที่ ๑๓ กวีมุสลิม ชาวตุรกี
มันช่างเป็นวันที่สวยงามที่สุดของสัปดาห์
และเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของวันนั้นด้วย
ภาพงดงามที่พระผู้เป็นเจ้าประทานมาหาให้โผล่พ้นยอดเขาที่รายรอบตัวเมืองขึ้นมา
ราวกับพระอาทิตย์ขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ
เหล่ามวลชลผู้ภักดีต่างรอคอยวันนี้มาทั้งสัปดาห์เพื่อเฉลิมฉลองความงดงามที่หาซื้อไม่ได้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ที่กำลังฉาบทาบอยู่บนใบหน้า
ผู้คนนับพันล้านต่างปิติยินดีที่ได้เห็นพระองค์ในลักษณะไม่มีผ้าคลุมหน้ามาปิดกั้นระหว่างเขากับพระเจ้า
ด้วยอารมณ์ขณะนั้นมีความเป็นไปได้สุงที่จะเกิดการระเบิดความรู้สึก
แทบทุกคนปณิธานกับตนเองว่าจะไม่ยอมพรากจากนาทีสำคัญนี้
พายุแห่งความสันติสุขแผ่ซ่านทั่วท้องนภา
ในช่วงเวลาแห่งความรื่นรมย์อันล้นพ้นนั้นสายตาของอาห์เหม็ดไปสะดุดที่เพื่อนที่คบหากันตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์
อาเด็มกำลังปลีกตัวออกจากฝูงชนที่หนาแน่นนี้ไปหาที่สงบให้ตัวเอง
อาห์เหม็ดจึงรุกตามไปอย่างง่ายดาย
-
ว่าไงเพื่อน
สบายดีไหม ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์แล้วนะ
ถ้าไม่ใช่วันศุกร์เราคงไม่ได้พบกันเลยในแดนสวรรค์นี้
เขารู้ว่ามาว่าพักหลังมานี้อาเด็มประสบปัญหาอย่างหนัก แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มบทสนทนาอย่างไร
จึงเลือกเปิดประเด็นแบบเพื่อนกันฉันท์มิตรจากเมื่อครั้งยังอยู่ในโลกมนุษย์
อาเด็มไม่สู้จะเต็มใจเปิดปากพูดมากนัก
ถ้อยคำออกมาช่างยากเย็นราวกับกำลังปั่นจักรยานขึ้นยอดเขา
-
เราสบายดี
นายก็น่าจะรู้เราไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เราอยู่ในสวรรค์กันนะ ที่นี่ไม่มีคำว่า
“ปัญหา” นายก็รู้นี่
อาห์เหม็ดเข้าไปจ้องเขาชิดมากขึ้น พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น
แม้จะแยกไปเรียนมัธยมปลายคนละโรงเรียนแต่ความเชื่อมั่นศรัทธานำพาให้เจอกันอีกครั้งในมหาวิทยาลัยคณะเดียวกันคือ
วิศวะกรรมศาสตร์ และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็เป็นเพื่อนรักแยกกันไม่ออก
จนแม้ความตายก็มิอาจทำให้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
-
นายมีอะไรบางอย่างปิดบังฉัน
เรื่องนางสนมอีกแล้วใช่ไหม ฉันได้ยินมาว่านายไล่นางสนมออก
แล้วมันจริงไหมที่ว่าบ้านนายไม่มีแม้แต่เสนารับใช้สักคน ฉันไม่เข้าใจนายเลย
ตอนอยู่โลกมนุษย์เราต่างมีความอดทนไม่ยอมให้ความกดดันทำอะไรเราได้
ตอนนี้เราสมควรได้รับผลตอบแทน นายอย่าไปกังวลใจกับเรื่องของคนอื่นเลย
ขอบคุณพระเจ้าที่เราข้ามสะพานมาสู่สวรรค์ได้อย่างฉลุย
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนายจึงยังทำให้ตัวเองยุ่งยากอยู่อีก ดูสิตอนนี้ฉันมีนางสนมถึง
๗๐นาง เสนารับใช้อีก ๒๐ นาย พอวันศุกรฉันก็มาร่วมพิธีนี้
ฉันมีความสุขกับชีวิตในสวรรค์ นายก็ทำได้
อาเด็มยิ้มเจื่อนเมื่อได้ยินตัวเลข ๗๐ พยายามกลั้นหัวเราะ
เพราะหากเขาหลุดขำออกมาก็เท่ากับว่าเขาสนับสนุนความคิดของอาห์เหม็ดที่มีนางสนมถึง ๗๐ นาง
-
ฉันทนไม่ได้กับความจริงที่ว่าสนมและเสนาพวกนั้นทำงานให้ฉันทั้งวันเปล่าๆเปลี้ยๆโดยไม่ได้อะไรตอบแทนเลย
ฉันรู้สึกผิดและความรู้สึกนี้กัดกร่อนจิตใจฉัน
ฉันอดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาเองก็มีสิทธิเสรีภาพที่จะเป็นอิสระและมีชีวิตที่ดีอย่างพวกเรา
อาห์เหม็ดลูบเคราที่เขาปล่อยยาวไว้หนึ่งปี
-
นายพูดจาไร้สาระนะอาเด็ม
นายก็รู้ข้อนี้ดีแต่นายทำเป็นดันทุรังเพราะรับไม่ได้
พวกนั้นถูกสร้างมาเพื่อรับใช้เรา
ความหมายของการมีอยู่ของพวกนั้นคือมีไว้เพื่อสร้างความสุขความพอใจให้เราไงหละ
หาใช่เหตุผลอื่นใดไม่ ไม่มีการบังคับกดขี่ข่มเหงอย่างแน่นอน
ยิ่งปรนนิบัติเอาอกเอาใจจนเราพอใจมากเท่าไรพวกนั้นก็ยิ่งยินดีทำเท่านั้น
เชื่อฉันเถอะนะเพื่อน ฟังนะ นายรู้ไหมว่าฉันคิดอะไรออก นายให้ฉันส่งสนมของฉันสัก
๑๐นางไปบ้านนายนะ คืนนี้นายมีความสุขกับพวกนางให้เต็มที่
ปล่อยจิตใจให้ล่องลอยเบาสบาย แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปเลือกสนมดีดีด้วยกัน
อาเด็มจ้องหน้าเพื่อนเพื่อดูว่าอาห์เหม็ดจริงจังกับสิ่งที่เสนอมาหรือไม่แค่ไหน
แล้วมันก็ทำให้เขาประหลาดใจ อาห์เหม็ดเอาจริงกับเรื่องนี้
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลาที่เป็นเพื่อนกันมายาวนานทั้งชีวิต
เขานับว่าอาห์เหม็ดเป็นคนประเภทชอบโรยเกลือบนแผลของเพื่อนมาโดยตลอด
และมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด
-
อย่าเลย
ฉันสบายดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ เย็นนี้ฉันว่าจะอ่านอะไรสักหน่อย
อีกอย่างนะนั่นมันจะกวนใจฉันมาก
ความสุขที่สุดที่ฉันยังคงต้องการคือการได้อ่านหนังสือและคิดตาม
หน้าของอาห์เหม็ดเผยรอยยิ้มแหยๆที่แสดงถึงความผิดหวัง
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าอาเด็มจะปฏิเสธข้อเสนอ บางทีเขาคงต้องเบี่ยงประเด็นเสียแล้ว
-
นายรู้ไหมว่าอะไรทำให้ฉันมีความสุขได้
ฉันดีใจที่เราต่างก็หย่าเรียบร้อยก่อนตาย
ไม่เช่นนั้นคงต้องมาทนฟังเสียงหนวกหูน่ารำคาญของบรรดาเมียๆ
ที่จริงนายได้อยู่ต่ออีกหลายปีหลังจากนายหย่า
ส่วนฉันเจออุบัติเหตุทันทีในวันที่ศาลอนุมัติให้ฉันหย่า ตายวันนั้นเลย
พระเจ้ารักฉันทำให้ฉันหนีมาได้ทันท่วงที ตอนนี้ฉันจึงแสนจะสบาย เมียฉัน
อืมฉันหมายถึงเมียเก่าฉันหนะไปอยู่อีกมุมหนึ่งของสวรรค์ ไม่ต้องเจอกันอีก
ลูกๆของเรามาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้ง ลูกฉันมาเมื่อไรฉันก็ให้สนมออกไปอยู่ข้างนอก
ฉันไม่อยากให้ลูกๆเข้าใจฉันผิด นายก็รู้ฉันเป็นพ่อของพวกเขา
บางครั้งฉันก็ละอายใจแต่พอพวกเขาไปเราก็จัดปาร์ตี้หฤหรรษ์ในสวรรค์ชั้นฟ้ากันอีก
เอาน่าเพื่อน อย่าปฏิเสธข้อเสนอฉันเลย เอาไปสัก ๑๐นาง
สมองจะได้โล่ง และตัวนายจะได้สบายขึ้น
-
อย่าเกลี้ยกล่อมฉันให้ยากเลยอาห์เหม็ด
ฉันไม่มีทางตกลงหรอก
ครั้งสุดท้ายที่ฉันมีอะไรกับสนมนั่นมันทำให้ฉันรู้สึกแย่ไปหลายเดือน
ฉันทุกข์ทรมานราวกับพกหินไว้ในท้องแล้วเดินไปบนธารน้ำผึ้งเหนียวหนืดนั่น
ฉันไม่มีทางจะสำราญใจจากการเบียดเบียนคนอื่นได้หรอก
-
อ้า
นายเฉไฉไปเรื่อยแล้วเพื่อน ใครเบียดเบียนใคร พวกนั้นทำงานตามหน้าที่ต่างหาก
นายก็ต้องทำตามหน้าที่ด้วย หน้าที่ของนายก็คือมีความสุขไงหละ
เมื่อครั้งตอนอยู่ในโลกนายก็เป็นแบบนี้
นายต้องขอบคุณฉันที่ไม่ปล่อยให้นายทำไปตามวิธีของนาย
ไม่อย่างนั้นจิตนายคงดำมืดจากความคิดอันตรายพวกนั้น
และนายคงไม่ผ่านการทดสอบชีวิตมาแน่ เราข้ามสะพานมาได้เพราะฉันแท้ๆ
-
ถูกแล้วอาห์เหม็ด
ฉันจะขอบใจนายอย่างไรดี
แต่ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันเปลี่ยนใจเรื่องสนมกับเสนาได้
ฉันไม่อยากให้พวกเขามีตัวตนด้วยซ้ำ เราจะได้ทำอะไรของเราเอง
อาห์เหม็ดหัวเราะร่วน
-
นายพูดไม่คิดเลย
มันไม่ใช่แค่เรื่องงานการนะ ความจำเป็นในชีวิตของเราหละ
เราจะทำสิ่งต่างๆเองให้เรียบร้อยเข้าที่เข้าทางจนสมใจเราได้เองหรือ
พูดไม่เข้าท่าเลย พระผู้เป็นเจ้าประทานความเมตตาให้เราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เราผู้เต็มไปด้วยความศรัทธา ไม่มีสิทธิปฏิเสธความเมตตาที่พระองค์ประทานให้
อาเด็มเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำว่า “ไม่มีที่สิ้นสุด”
บางทีนี่อาจเป็นเพียงโอกาสเดียวในวันนี้ที่เขาได้ เขาอยากไหลไปตามน้ำ
-
นายบอกว่าไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งมันทำให้ฉันสับสนมาหลายวันแล้ว
ฉันเข้าใจและเคารพนะที่พระเจ้าของเรามีพลังอำนาจไม่มีที่สิ้นสุด
และงดงามอย่างหาที่สุดมิได้
-
ใช่แล้ว ในที่สุดนายก็พูดจาเข้าท่า
-
เปล่าฉันยังพูดไม่จบ
แล้วพลังอำนาจกับความงดงามอย่างหาที่สุดมิได้นี้มาจากไหน
-
อาเด็มเพื่อนรัก
นายกำลังสับสนกว่าที่ฉันคิดไว้ ถ้านายยังเป็นแบบนี้ต่อฉันจะไม่คุยกับนายอีก
ไม่อย่างนั้นนายจะทำให้ฉันเดือดร้อนไปด้วย นายมันบ้า นายได้ยินที่ตัวเองกำลังพูดอยู่ไหม
-
ใจเย็นสิอาห์เหม็ด
ไม่เห็นจะต้องกังวลเลย เชื่อฉันสิฉันก็แค่คิดๆดู
-
ไม่อ่ะ
นายไม่แค่คิดๆดู นายกำลังมุ่งไปสู่การนอกรีตไร้ศาสนา
การคิดวิเราะห์คำนึงนั้นสร้างสรรค์ให้สูงขึ้น แต่นายกำลังจะลงต่ำ
-
ทำไมนายคิดอย่างนั้น
มาช่วยกันสิ เราต่างก็รู้ดีว่าไม่มีแนวคิดใดที่ว่าด้วยการไม่มีที่สิ้นสุด
ตามหลักการแล้วกล่าวได้ว่ามีจำนวนนับไม่ได้ไม่มีที่สิ้นสุดของจำนวนอันหาที่สุดไม่ได้
อย่างเช่น มีจำนวนที่นับไม่ได้อยู่ระหว่าง ๐ กับ ๑
แต่ว่าก็ยังมีจำนวนที่นับไม่ได้ระหว่าง ๑
ไปถึงหาที่สุดไม่ได้ด้วยเช่นกัน เราเรียกสองอย่างนี้เท่ากันได้ไหม ก็ไม่ได้อีก
อันหลังสิที่ยิ่งใหญ่กว่าอันแรก
-
แล้วยังไงหละ
นายต้องการอะไร นายทำให้ฉันกระหายใคร่รู้ขึ้นมาซะแล้ว
อยู่ดีดีนายก็เพาะเมล็ดความสงสัยใส่ในหัวฉัน เอาเถอะ ว่าไงต่อ
-
ไม่ต้องห่วงหรอกไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับนายแน่ๆ
เราไปเฝ้ารอพระเจ้าในวันศุกร์ เราชื่นชมบารมีอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระองค์ ชื่นชมความปราดเปรื่องรอบรู้และความงามอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์นะ
-
แล้วยังไงต่อ
-
ถ้าหากว่ามีพระเจ้าอยู่อีกองค์หนึ่งหละ
ที่ไม่มีที่สิ้นสุดยิ่งกว่าพระเจ้าของเรา เราจะพิสูจน์ว่าไม่มีได้ไหม
-
เราก็ไม่มีข้อพิสูจน์ว่ามีเช่นกัน
-
นายพูดถูกอาห์เหม็ด
ฉันแค่สงสัยหนะ แค่คิดๆวิเคราะห์ดู
-
ฉันว่านายทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปนะ
นายไม่เห็นรึเราอยู่ในสวรรค์กันนะเพื่อน การคิดแบบนั้นคงดีถ้าเรายังอยู่ที่โลก
เราไม่ต้องเอามาคิดอีกต่อไปแล้ว นายรักใครสักคน หรือให้คนมารักตามแต่ใจจะใฝ่หาสิ
ที่นี่มีลำธารสายน้ำผึ้งและน้ำตกไวน์
ถ้านางสนมทำให้นายมีความสุขไม่ได้ก็ลองหาความสนุกเพลิดเพลินจากพวกนางงามไป
-
อาห์เหม็ดแต่ว่า...ฉันสนุกกับการคิดวิเคราะห์
มันทำให้ฉันสำราญยิ่งการนางสนมหรือธารน้ำผึ้งเป็นไหนๆ
ก็เหมือนกันทุกๆคนที่เลือกทำในสิ่งที่ตนเองชอบและมีความสุขกับมันฉันก็เช่นกัน
ฉันผิดด้วยหรือ
-
ได้ได้อาเด็ม
นายอยากทำอะไรก็ทำไปแต่อย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้อง
บอกฉันด้วยถ้านายมีความสุขตื่นเต้นกับเรื่องอื่นอีก
-
ไม่ต้องห่วงเราเราอยู่ในสวรรค์
นายเคยบอกฉันไม่ใช่รึว่าถ้าเราได้มาถึงที่นี่แล้วเราก็อยู่ที่นี่ได้ตลอดไป
ฉันจะยกตัวอย่างนึง นายเองก็เรียนวิศวะกรรมศาสตร์มาน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก
ลองคิดฟังชั่น f(x) = ln(x) มันมีการผันแปรเพิ่มขึ้นทีละน้อย
คราวนี้ให้นึกฟังชั่น g(x) = ex
นี่ก็ผันแปรเช่นกันแต่เพิ่มจำนวนครั้งอย่างรวดเร็วไม่มีที่สิ้นสุดไปจนหาที่สุดมิได้
ฉันหมายถึงไม่ว่าอัตราส่วน g(x) หรือ f(x) ต่างนับไม่ได้เช่นกัน
ตอนที่เราอยู่โลกเราพอจะเชื่อได้ว่ามีบางสิ่งที่นับไม่ได้แต่ตอนนี้ฉันสงสัย
ถ้าหากพระเจ้าที่เราเห็นทุกวันศุกร์เป็น f(x) แล้วมี g(x) ที่มีพลังอำนาจความงามความรู้อย่างหาที่สุดมิได้ยิ่งกว่าหละ
หากเป็นเช่นนั้นในสรวงสวรรค์ของ g(x) ก็คงไม่มีนางสนมและเสนาอยู่
สิ่งที่มีอยู่จะมีค่าเท่าเทียมกันตามธรรมชาติของมัน
-
โธ่อาเด็ม
นายติดแหง่กกกับเรื่องความเท่าเทียมความไม่เท่าเทียมนั่นเอง ฟังฉันนะ
นายจะเท่าเทียมและมีอิสระภาพมากไปกว่าที่นายมีในสวรรค์นี้ไม่ได้แล้ว
ไม่มีชีวิตหลังจากนี้แล้ว ชีวิตนี้ที่เราได้รับสิ่งต่างๆมามันงดงามยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะเป็น
แสดงความกตัญญูสิ นายอาจลงนรกในที่สุด หรือนายอาจไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ
-
นายรู้ได้อย่างไรอาห็เหม็ด
-
รู้อะไร
-
นายรู้ได้อย่างไรว่าที่นี่คือสวรรค์ไม่ใช่ด่านทดสอบ
บางทีทั้งหมดทั้งมวลที่เราเห็นและสัมผัสอาจมีอีกพลังอำนาจหนึ่งอยู่
ที่เราเห็นและสัมผัสอาจสร้างมาจากอีกพลังอำนาจนั้น ฉันกำลังพูดถึง g(x) บางทีเขาอาจต้องการให้เราตามหาเขา
ให้เราคิดวิเคราะห์ใคร่ครวญดูและเข้าถึงเขาด้วยการคิดแบบนี้
-
ฉันจะกลับบ้านแล้ว
อาเด็มนายไม่ใช่แค่คิดมากแต่นายยังพูดมากอีกด้วย ถ้านายยังเป็นแบบนี้
นายจะทำให้สวรรค์ของนายกลายเป็นนรกเสียเอง ฉันจะแนะนำว่าให้นายหาอะไรทำได้แล้ว
-
ได้สิ
นายกลับไปเลย แต่ขอให้ฉันถามอีกข้อหนึ่ง นายจำตอนที่เราอยู่คณะฯได้ไหม
ฉันเคยอ่านปรัชญาเยอะมากและตั้งคำถามถึงความหมายของชีวิต
ในตอนนั้นนายช่วยเหลือฉันให้ผ่านมาได้และให้ฉันได้รู้จักกับพลังอำนาจอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้า
นายรู้ไหมว่าฉันคิดอะไรในวันนี้
ฉันสงสัยว่าพระองค์เองก็คงถามตัวเองว่ามีไว้ทำไมเหมือนที่ฉันเคยถาม
ฉันหมายความว่าเขาจะเคยถามตัวเองไหมว่าเขามีไว้ทำไมหรือทั้งหมดนี้มีความหมายว่าอะไร
เขาจะเคยสงสัยไหมว่าจะมีพลังอำนาจอีกหนึ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า
ถ้าใช่เขาก็น่าจะมาสู่บทสรุปเดียวกันกับที่ฉันมาถึง
โดยยึดกฎและตรรกะเดียวกันกับที่ฉันใช้ ใช่หรือไม่
ทันทีที่อาเด็มพูดจบพื้นดินเบื้องล่างที่เขายืนอยู่ก็ไหวสั่นเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
เกิดรอยร้าวจากข้างหลังเขาและขยายใหญ่ขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
มันพุ่งผ่านเข้ามาระหว่างขาสองข้างของเขาจนยากที่จะทรงตัว
เพียงไม่กี่วินาทีเท้าทั้งสองข้างก็เกาะเกี่ยวขอบที่แตกร้าวเอาไว้อย่างยากเย็น
หนทางเดียวที่จะหนีจากตรงนั้นได้คือปล่อยให้ตนเองตกลงไปข้างล่างเท่านั้น
มันเกิดขึ้นรวดเร็วมากอาห์เหม็ดได้แต่จ้องมองดูเพื่อนพูดอะไรไม่ออก
ในช่วงเวลาแสนสั้นจนเขาไม่มีแม้โอกาสยื่นมือไปช่วยหรืออ้อนวอนพระเจ้าให้อภัยแก่เขา
อาเด็มหายวับลงไปในความมืดที่เยียบเย็นในรอยแตกนั้นอย่างไร้ร่อยรอย
พื้นดินกลับสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง
ในขณะนั้นอาเด็มพบว่าตนเองอยู่ในบ่อโคลน ท้องฟ้าสดใส อากาศสดชื่น
เขามองเห็นม้าลายจำนวนหนึ่ง ยีราฟและกวางอีกด้านหนึ่งของบ่อ
ฝูงนกสีสันสวยงามบินข้ามหัวเขาไปพร้องส่งเสียงร้องของยามเช้า
อีกฝั่งหนึ่งของบ่อเขามองเห็นนกกระจอกเทศกำลังเดินออกห่างจากไข่ของมันเพื่อไปหาอาหาร
ไม่มีมนุษย์หรือแม้กระทั่งร่องรอยว่ามีชุมชนมนุษย์อาศัยอยู่เลย
เขาค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ไข่นกกระจอกเทศคาดว่าจะหยิบไปไว้กินสักใบ
พลันเขาก้าวออกจากบ่อโคลนนั่นโคลนที่ติดตามตัวเขาก็แห้งและหลุดหล่นลงตามพื้น
แล้วก็พบว่าตัวเองกำลังเปลือยตั้งแต่หัวจรดเท้า จึงรีบวิ่งไปข้างต้นมะเดื่อ
อย่างไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าไม่มีมนุษย์หน้าไหนจะมามองเห็น แล้วเขาก็เด็ดใบไม้มาหนึ่งใบเพื่อมาปกปิดของลับเขาไว้
--------------------------------------------------------------------------------
Written by Alirıza Arıcan
Translated into Thai by Jaruwan Arıcan
For English version, click HERE
For Turkish (original) version, click HERE
Hiç yorum yok:
Yorum Gönder